ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>

หอพระไตร

ฆราวาสธรรม 4

ฆราวาสธรรม ประกอบด้วย 2 คำ "ฆราวาส" แปลว่า ผู้ดำเนินชีวิตในทางโลก, ผู้ครองเรือน และ "ธรรม" แปลว่า ความถูกต้อง, ความดีงาม, นิสัยที่ดีงาม, คุณสมบัติ, ข้อปฏิบัติ ฆราวาสธรรม แปลว่า คุณสมบัติของผู้ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตทางโลก ประกอบด้วยธรรมะ 4 ประการ คือ

  1. สัจจะ แปลว่า จริง ตรง แท้
  2. ทมะ แปลว่า ฝึกตน ข่มจิต และรักษาใจ
  3. ขันติ แปลว่า อดทน
  4. จาคะ แปลว่า เสียสละ

ความสำคัญของหลักธรรม 4 ประการ ที่มีต่อการสร้างตัวนี้ พระพุทธองค์ถึงกับท้าให้ไปถามผู้รู้ท่านอื่นๆ ว่า มีสิ่งใดในโลกนี้ที่สร้างเกียรติยศให้คนเราได้เท่ากับการมี "สัจจะ" หรือไม่ มีสิ่งใดในโลกนี้ที่สร้างปัญญาให้คนเราได้เท่ากับการมี "ทมะ" หรือไม่ มีสิ่งใดในโลกนี้ที่สร้างทรัพย์สมบัติให้คนเราได้เท่ากับการมี "ขันติ" หรือไม่ มีสิ่งใดในโลกนี้ที่สร้างหมู่มิตรให้คนเราได้เท่ากับการมี "จาคะ" หรือไม่การที่พระพุทธองค์ทรงท้าให้ไปถามผู้รู้อื่นๆ อย่างนี้ก็หมายความว่า ไม่มีธรรมะใดๆ ที่จะใช้สร้างตัวให้ประสบความสำเร็จได้ยิ่งกว่าการสร้างสัจจะ ทมะ ขันติ จาคะให้เกิดขึ้นในตนอีกแล้ว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คนที่จะยืนหยัดผ่านอุปสรรคต่างๆ ในโลกนี้ไปจนกระทั่งพบความสำเร็จได้นั้น เขาต้องสร้าง "ฆราวาสธรรม" ให้เป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานประจำตนก่อนนั่นเอง เพราะฉะนั้น ความหมายที่แท้จริงของ ฆราวาสธรรม คือ คุณสมบัติของผู้ที่สามารถสร้างเกียรติยศ สร้างปัญญา สร้างทรัพย์สมบัติ และสร้างหมู่ญาติมิตรให้เกิดขึ้นได้สำเร็จด้วยกำลังความเพียรของตน อานิสงส์ของการสร้างตัวให้มีฆราวาสธรรม

  • อานิสงส์ของการมีสัจจะ
    - ปลูกนิสัยความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นในตัว
    - เป็นคนหนักแน่นมั่นคง
    - มีความเจริญก้าวหน้าในการประกอบหน้าที่การงาน
    - ได้รับการเคารพยกย่อง
    - มีคนเชื่อถือ และยำเกรง
    - ครอบครัวมีความมั่นคง
    - ได้รับเกียรติยศชื่อเสียง
  • อานิสงส์ของการมีทมะ
    - ปลูกฝังนิสัยรักการฝึกฝนตนให้เกิดขึ้นในตัว
    - ทำให้เป็นคนมีความสามารถในการทำงาน
    - ไม่มีเวรกับใคร
    - ยับยั้งตนเองไม่ให้หลงไปทำผิดได้
    - สามารถตั้งตัวได้
    - มีปัญญาเป็นเลิศ
  • อานิสงส์ของการมีขันติ
    - ปลูกฝังนิสัยการอดทนต่ออุปสรรคและปัญหาต่างๆ
    - ทำงานได้ผลดี
    - สามารถเป็นหลักในครอบครัวได้
    - สามารถเป็นหลักให้กับบริวารได้
    - ไม่มีเรื่องวิวาทกับคนอื่น
    - ไม่หลงผิดไปทำความชั่วได้
    - ทำให้ได้ทรัพย์มา
  • อานิสงส์ของการมีจาคะ
    - ปลูกฝังการมีอารมณ์ผ่องใสและนิสัยเสียสละให้เกิดขึ้นในตัว
    - เป็นการสร้างความปลอดภัยแก่ตนเอง
    - เป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป
    - ครอบครัวและสังคมเป็นสุข
    - มีกัลยาณมิตรรอบตัว สรุปแล้วคุณของการมีฆราวาสธรรมโดยรวม ก็คือ เมื่อมีสัจจะย่อมมีเกียรติยศชื่อเสียง เมื่อมีทมะย่อมได้รับปัญญา เมื่อมีขันติย่อมเกิดทรัพย์ในบ้าน และเมื่อมีจาคะย่อมเกิดมิตรที่ดีไว้เป็นสมัครพรรคพวกในสังคม

โทษของการไม่สร้างตัวให้มีฆราวาสธรรม

  • โทษของการขาดสัจจะ
    - ปลูกนิสัยขาดความรับผิดชอบให้เกิดขึ้นในตัว
    - เป็นคนเหลาะแหละ
    - พบแต่ความตกต่ำ
    - มีแต่คนดูถูก
    - ไม่มีคนเชื่อถือ
    - ไม่สามารถรองรับความเจริญต่างๆ ได้
    - ไร้เกียรติยศชื่อเสียง
  • โทษของการขาดทมะ
    - ขาดนิสัยรักการฝึกฝนตนเอง
    - ทำให้ขาดความสามารถในการทำงาน
    - สามารถหลงผิดไปทำความชั่วได้ง่าย
    - จะเกิดการทะเลาวิวาทได้ง่าย
    - จะจมอยู่กับอบายมุข
    - ครอบครัวเดือดร้อน
    - ไม่สามารถตั้งตัวได้
    - เป็นคนโง่เขลา
  • โทษของการขาดขันติ
    - ไม่สามารถอดทนต่อปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้
    - เป็นคนจับจด ทำงานคั่งค้าง
    - ไม่สามารถเป็นหลักให้ครอบครัวได้
    - หลงผิดไปทำความชั่วได้ง่าย
    - ไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้อื่น
    - เต็มไปด้วยศัตรู
    - ขาดความเจริญก้าวหน้า
    - ทำให้เสื่อมจากทรัพย์
  • โทษของการขาดจาคะ
    - ปลูกฝังความตระหนี่ให้เกิดขึ้นในใจ
    - ได้รับคำครหาติเตียน
    - เป็นทุกข์ใจ
    - ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ สรุปแล้วโทษของการขาดฆราวาสธรรมโดยรวมก็คือ เมื่อขาดสัจจะย่อมเกิดปัญหา ถูกหวาดระแวง เมื่อขาดทมะย่อมเกิดปัญหาความโง่เขลา เมื่อขาดขันติย่อมเกิดปัญหาความยากจน และเมื่อขาดจาคะย่อมเกิดปัญหาความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นในสังคม

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย