สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
พัฒนาการสังคมไทย
ดุจฤดี คงสุวรรณ์
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสังคมชนบทในภาคกลาง
อาจกล่าวได้ว่า สภาพภูมิศาสตร์มีอิทธิพลต่อการตั้งหมู่บ้านทางภาคกลางไม่น้อยกว่าทุกภาคดังที่กล่าวมาแล้ว ในงานวิจัยของฉัตรทิพย์ นาถสุภา เรื่องวัฒนธรรมหมู่บ้านไทย ฉัตรทิพย์แบ่งลักษณะที่ตั้งหมู่บ้านทางภาคกลางไว้ เป็น 3 ลักษณะคือ
- หมู่บ้านที่ตั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำ
ใช้เส้นทางน้ำในการไปมาหาสู่ซื้อขายสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคกันหมู่บ้านดังกล่าวเช่นนี้คือเป็นหมู่บ้านรุ่นเก่าที่สุดและมีที่สังเกตคือชื่อหมู่บ้านจะบอกลักษณะที่ตั้งเป็นที่สังเกต
เช่น บ้านตลิ่งชัน บ้านท่าใหญ่ บ้านหนองป่าแซง บ้านท่าวุ้ง
ลักษณะหมู่บ้านตามแนวยาวไปตามสายน้ำเช่นนี้ จะไม่พบในภาคเหนือ ภาคอีสาน
และภาคใต้
- หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ตามท้องทุ่ง
ตามที่ราบซึ่งในภาคกลางมักเป็นพื้นที่อันกว้างใหญ่
และมีชาวนามาตั้งบ้านเรือนหลายหมู่บ้านเข้าทำนาในที่ราบลุ่มแห่งนี้บางแห่งนี้เป็นทุ่งราบไม่กว้างใหญ่
ก็มีหมู่บ้านเดียว โดยมีหนองน้ำเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค เช่น บ้านหนองศาลา
ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ชาวทุ่งกอก ชาวบ้านสามทอง
บ้านท่าใหญ่ และบ้านตลิ่งชัน ก็ทำนาอยู่ในบ้านทุ่งกอกนับเป็นหมื่นไร่
ดังนั้นจึงแตกต่างจากภาคอีสานที่หมู่บ้านและพื้นที่เป็นเฉพาะของบ้านตน
การติดต่อสื่อสารกันส่วนใหญ่ ใช้เส้นทางน้ำ เช่น คูคลอง
มีเรือขึ้นล่องเป็นประจำ
จำเป็นชุมชนเปิดและเป็นเครือข่ายและเมื่อมีผู้คนหนาแน่นขึ้น
ก็พากันออกไปหาแหล่งนาแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายทุ่ง เช่น
ชาวบ้านท่าข้ามริมลำน้ำท่าวัง ตำบลสนามคลี อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
ได้เดินไกวจากหมู่บ้าน
ไปหาที่ทำกินที่บ้านปราสาทพื้นที่ที่บุกเบิกรุ่นเดียวกันก็มี เช่น ทุ่งประดู่
ทุ่งแฉลบ ทุ่งหัวอุด เป็นต้น
- หมู่บ้านที่อยู่ห่างจากท้องทุ่ง เป็นพื้นที่ดอนและห่างไกลจากชุมชนมักเรียกกว่าบ้านป่า สมัยก่อนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สุพรรณบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี เหล่านี้ล้วนเป็นบ้านป่าทั้งสิ้น ในด้านการเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านที่อยู่กลางทุ่งจะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจใหม่เพื่อการค้าเร็วเช่นเดียวกับหมู่บ้านริมแม่น้ำ ส่วนหมู่บ้านบนที่ดอนและบ้านป่านั้นจะตามมาทีหลัง
ในด้านการถือครองที่ดิน
กล่าวได้ว่าดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำเจ้าพระยาหรือที่ราบกรุงเทพฯ
หมู่บ้านเหล่านี้เจ้าของที่ดินมักจะได้แก่พวกเจ้านายและชนชั้นสูง
เจ้านายองค์หนึ่งอาจถือครองที่ดินนับพันไร่
และมีชาวนาบางส่วนที่มีที่ดินถือครองของตนเอง บ้างก็ขายไป
แต่ส่วนมากเกิดจากชนชั้นสูงมีโอกาสซื้อหาจับจองหรือเป็นเจ้าของที่ดินมากกว่าชาวบ้านธรรมดา
โดยเฉพาะที่ดินริมคลองหมู่บ้านแบบนี้พบได้ง่ายในอยุธยา ปทุมธานี อ่างทอง
และกรุงเทพฯ
ในสมัยต่อมาในหลายหมู่บ้านเจ้าของที่ดินซึ่งอยู่ในเมืองตั้งตัวแทนของตนที่เรียกว่า
นายกองนา ให้ดูแลผลประโยชน์ในนาของตนในหมู่บ้าน บ้านซุ้ง ตำบลนครหลวง
อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ซึ่งเป็นชุมชนที่เจริญที่สุดของอำเภอนครหลวงในสมัยนั้น
ความเจริญของหมู่บ้านในเขตภาคกลางมิได้อยู่เฉพาะในเขตที่ราบลุ่มดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น
แต่ที่สำคัญคือเป็นแหล่งค้าขายผลิผลิต เช่น ข้าว น้ำตาล เช่น ที่ราบในขอบเขต ภูเขา
ทิวเขา อันครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์
เพชรบูรณ์ และพื้นที่ในเขตที่ราบใหญ่ภาคกลาง เช่น อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี
อ่างทอง ลพบุรี นครสวรรค์
เป็นพื้นที่คล้ายกับหัวเมืองในประวัติศาสตร์ซึ่งมีไพร่ส่วยจำนวนมาก
แสดงถึงการมีผลผลิตสำคัญ ๆ
โดยเฉพาะข้าวเปลือกที่ค้าขายในท้องถิ่นและมีทางคมนาคมทางเกวียนและทางน้ำ
โดยมีปากน้ำโพเป็นชุมทางใหญ่รองจากกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับนครปฐม สุพรรณบุรี
เป็นเขตที่ผลิตน้ำตาลสำคัญที่สุด
พัฒนาการของหมู่บ้านภาคกลางในช่วง 40-50 ปีที่ผ่านมา
หมู่บ้านที่เกิดขึ้นในป่าสงวน เช่น หมู่บ้านคลองตะเคียนชัย ตำบลดาหลัง
อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดปราจีนบุรี หมู่บ้านห้วยหัน ตำบลยายหมี อำเภอสนามชัยเขต
จังหวัดฉะเชิงเทรา หมู่บ้านอุดมพัฒนา ตำบลธารทหาร อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์
เป็นต้น ผู้คนที่เข้ามาอยู่ป่าสงวนต้องใช้ระบบปืน ญาติ เพื่อนบ้าน
บางหมู่บ้านอพยพมาจากหลายจังหวัด เช่น เพชรบูรณ์ พิษณุโลก นครราชสีมา
เข้ารวมตัวกันต่อสู่กับ โจรผู้ร้ายและผู้ที่มาแย่งที่ทำกิน
กล่าวโดยรวมแล้ว
หมู่บ้านภาคกลางเป็นหมู่บ้านที่เข้าสู่ระบบทุนนิยมรวดเร็วและกว้างขวางยิ่งกว่าภาคอื่นใด
เป็นเพราะเหตุผลสองประการคือความพร้อมของพลังการผลิตคือ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร
และเป็นเพราะว่าอยู่ใกล้กับเมืองหลวงซึ่งเป็นเมืองท่าและเป็นศูนย์
กลางการพัฒนาเศรษฐกิจ
แต่การขยายตัวของทุนนิยมได้เปลี่ยนหมู่บ้านจากสภาพพอยังชีพและทำการค้าภายในเพียงเล็ก
ๆ น้อย ๆ เฉพาะส่วนหัว เช่น หมู่บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำอยู่บนที่ราบอันอุดมสมบูรณ์
และหมู่บ้านที่อยู่ในเขตเมืองชุมทางซึ่งมีเงื่อนไขอันเหมาะสมจะเปลี่ยนแปลงรองรับขยายตัวของเศรษฐกิจ
การค้าเท่านั้นหมู่บ้านอื่น ๆ ที่อยู่ในเงื่อนไขไม่เหมาะสมค่อย ๆ
เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงนี้อย่างช้า ๆมีขั้นตอนยาวนาน
เงื่อนไขที่ชนชั้นสูงได้ทำการเปลี่ยนแปลงระบบ เช่น การขุดคูคลอง การชลประทาน
และการจัดระบบการค้าของราชธานี
เป็นเงื่อนไขสมทบให้การเปลี่ยนแปลงนี้เร็วกว่าภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย
» สังคมไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
» การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมของสังคมเมืองและสังคมชนบท
» การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสังคมชนบทในภาคเหนือ
» การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสังคมชนบทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
» การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสังคมชนบทในภาคใต้
» การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสังคมชนบทในภาคกลาง