ความรู้ทั่วไป สารนิเทศ การศึกษา คอมพิวเตอร์ >>

กฎหมายไทย - พระราชบัญญัติ

พระราชบัญญัติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พ.ศ. 2528

หน้า 2

หมวด 1
สถาบัน
_____

ส่วนที่ 1
บททั่วไป
_____

มาตรา 7 ให้สถาบันเป็นสถานศึกษาและวิจัย มีวัตถุประสงค์ให้การ ศึกษา วิจัย ส่งเสริม และให้บริการ ทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และ ครุศาสตร์อุตสาหกรรม รวมทั้งทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ

ให้สถาบันเป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นกรมในทบวงมหาวิทยาลัย

มาตรา 8 สถาบันอาจแบ่งส่วนราชการดังนี้

(1) สำนักงานอธิการบดี
(2) คณะ
(3) บัณฑิตวิทยาลัย
(4) วิทยาลัย
(5) สำนัก สถาบันอาจให้มีส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 7 เป็นส่วนราชการในสถาบันอีกได้

มาตรา 9 สำนักงานอธิการบดีอาจแบ่งส่วนราชการเป็นกอง หรือ ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากอง คณะอาจแบ่งส่วนราชการเป็นสำนักงานคณบดี ภาควิชา ศูนย์ กอง หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา ศูนย์ หรือกอง บัณฑิตวิทยาลัยอาจแบ่งส่วนราชการเป็นสำนักงานคณบดี กอง หรือ ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากอง วิทยาลัยอาจแบ่งส่วนราชการเป็นสำนักงานผู้อำนวยการ ภาควิชา ศูนย์ กอง หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา ศูนย์ หรือกอง สำนัก และส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะอาจ แบ่งส่วนราชการเป็นสำนักงานผู้อำนวยการ กอง หรือส่วนราชการที่เรียกชื่อ อย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากอง สำนักงานคณบดี สำนักงานผู้อำนวยการ ภาควิชา ศูนย์ กอง และ ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชา ศูนย์ หรือกอง อาจแบ่งส่วนราชการเป็นแผนก หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าแผนก

มาตรา 10 การจัดตั้ง การรวม และการยุบคณะ บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาลัย สำนัก และส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา การแบ่งส่วนราชการตามมาตรา 9 ให้ทำเป็นประกาศทบวง มหาวิทยาลัย

มาตรา 11 ภายใต้วัตถุประสงค์ตามมาตรา 7 สถาบันอาจรับสถาบัน การศึกษาหรือสถาบันวิชาการชั้นสูงอื่นเข้าสมทบในสถาบันได้ และมีอำนาจ ให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตร แก่ผู้สำเร็จ การศึกษาจากสถาบันการศึกษาหรือสถาบันวิชาการชั้นสูงที่เข้าสมทบได้ การรับเข้าสมทบหรือการยกเลิกการสมทบซึ่งสถาบันการศึกษาหรือ สถาบันวิชาการชั้นสูง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา การควบคุมสถาบันการศึกษาหรือสถาบันวิชาการชั้นสูงที่รับเข้าสมทบ ในสถาบัน ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสถาบัน

มาตรา 12 นอกจากเงินที่กำหนดไว้ในงบประมาณแผ่นดิน สถาบัน อาจมีรายได้ดังนี้

(1) เงินผลประโยชน์และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของสถาบัน
(2) ทรัพย์สินที่มีผู้ให้แก่สถาบัน รายได้ของสถาบันไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตาม กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

มาตรา 13 บรรดาทรัพย์สินของสถาบัน จะต้องจัดการเพื่อประโยชน์ และตามวัตถุประสงค์ของสถาบัน ทรัพย์สินที่มีผู้ให้แก่สถาบัน จะต้องจัดการตามเงื่อนไขที่ผู้ให้กำหนด ไว้และตามวัตถุประสงค์ของสถาบัน

ส่วนที่ 2
สภาสถาบันและสภาคณาจารย์สถาบัน
_______

มาตรา 14 ให้มีสภาสถาบัน ประกอบด้วย

(1) นายกสภาสถาบัน
(2) อุปนายกสภาสถาบันหนึ่งคน
(3) กรรมการสภาสถาบันโดยตำแหน่ง ได้แก่ อธิการบดี และ ประธานสภาคณาจารย์สถาบัน
(4) กรรมการสภาสถาบันโดยการเลือกจากผู้ดำรงตำแหน่งรอง อธิการบดี คณบดี ผู้อำนวยการ หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น ที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ มีจำนวนไม่น้อยกว่าสองคน แต่ไม่เกินสี่คน
(5) กรรมการสภาสถาบันโดยการเลือกจากคณาจารย์ประจำและ นักศึกษาเก่าของสถาบันมีจำนวนประเภทละอย่างน้อยหนึ่งคน แต่รวมกันไม่เกิน สี่คน
(6) กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิ มีจำนวนไม่น้อยกว่าสามคน แต่ไม่เกินห้าคน

มาตรา 15 สภาสถาบันมีอำนาจและหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการทั่วไป ของสถาบันและโดยเฉพาะมีอำนาจและหน้าที่ดังนี้

(1) วางข้อบังคับว่าด้วยการประชุมของสภาสถาบัน สภาคณาจารย์ สถาบัน คณะกรรมการประจำคณะ คณะกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัย คณะกรรมการประจำวิทยาลัย คณะกรรมการประจำสำนัก และคณะกรรมการ ประจำส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ
(2) วางนโยบายของสถาบันเกี่ยวกับการให้การศึกษา วิจัย ส่งเสริม และให้บริการ ทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และครุศาสตร์อุตสาหกรรม รวมทั้งการทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ
(3) วางระเบียบ และข้อบังคับของสถาบัน
(4) พิจารณาเสนอการจัดตั้ง การรวม และการยุบคณะ บัณฑิต วิทยาลัย วิทยาลัย สำนักและส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า คณะ รวมทั้งการแบ่งส่วนราชการตามมาตรา 9 ต่อทบวงมหาวิทยาลัย
(5) อนุมัติการรับเข้าสมทบหรือการยกเลิกการสมทบซึ่งสถาบัน การศึกษาและสถาบันวิชาการชั้นสูง
(6) พิจารณาเสนอหลักสูตรการศึกษาของสถาบันต่อทบวงมหาวิทยาลัย (7) อนุมัติให้ปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญา และ ประกาศนียบัตร
(8) พิจารณาดำเนินการเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง และพิจารณาถอดถอนอธิการบดี
(9) แต่งตั้งและถอดถอนรองอธิการบดี คณบดี รองคณบดี ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มี ฐานะเทียบเท่าคณะ รองหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะ เทียบเท่าคณะ หัวหน้าภาควิชา และหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มี ฐานะเทียบเท่าภาควิชา
(10) พิจารณาดำเนินการเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง และพิจารณาถอดถอนศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์พิเศษ
(11) แต่งตั้งและถอดถอนศาสตราจารย์เกียรติคุณ
(12) วางระเบียบและข้อบังคับ เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินของ สถาบัน
(13) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีจากเงินรายได้ของสถาบัน
(14) แต่งตั้งผู้ซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา 38 ให้รักษาราชการแทน อธิการบดีในกรณีที่ตำแหน่งอธิการบดีว่างลงตามมาตรา 21
(15) พิจารณาและให้ความเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการของสถาบัน ตามที่อธิการบดีเสนอ
(16) แต่งตั้งคณะกรรมการหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเพื่อพิจารณาและ เสนอความเห็นในเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือเพื่อปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด อันอยู่ ในอำนาจและหน้าที่ของสภาสถาบัน (17) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของสภาสถาบัน

มาตรา 16 ให้มีสภาคณาจารย์สถาบันประกอบด้วยสมาชิกจำนวนหนึ่ง ซึ่งคณาจารย์ประจำของสถาบันเลือกตั้งขึ้นจากคณาจารย์ประจำของสถาบัน และให้สมาชิกเลือกประธาน รองประธาน เลขาธิการ และตำแหน่งอื่นจาก สมาชิกตามแต่จะเห็นสมควร จำนวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการเลือกตั้ง และวาระของสมาชิก ตลอดจนวาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และการดำเนินงานของ สภาคณาจารย์สถาบัน ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสถาบัน

มาตรา 17 สภาคณาจารย์สถาบันมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและ ข้อเสนอแนะต่ออธิการบดี และหน้าที่อื่นตามที่สภาสถาบันหรืออธิการบดีมอบหมาย

« ย้อนกลับ | หน้าถัดไป »

แชร์ไปที่ไหนดี แชร์ให้เพื่อนสิ แชร์ให้เพื่อนได้ แชร์ให้เพื่อนเลย