ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป>>
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
5
การตีเชียงใหม่ครั้งที่ 1
เหตุที่ต้องรบเชียงใหม่ปี พ.ศ.2314 ก็เพราะโปมะยุง่วน เจ้าเมืองเชียงใหม่คุมกองทัพยกมาตีเมืองสวรรคโลก เข้าล้อมเมืองไว้ เจ้าพระยาสวรรคโลกต่อสู้ป้องกันเมืองเป็นสามารถแล้วบอกมายังกรุง พระเจ้ากรุงธนบุรีจึงมีท้องตราขึ้นไปเกณฑ์กองทัพหัวเมืองฝ่ายเหนือขึ้นไปช่วยเมืองสวรรคโลก เจ้าพระยาสุรสีห์ พระยาพิชัย และพระยาสุโขทัย จึงยกกองทัพขึ้นไปยังเมืองสวรรคโลกเข้าตีขนาบพม่าซึ่งตั้งล้อมเมืองอยู่ พม่าต้านทานมิได้ก็แตกพ่ายหนีกลับไปเมืองเชียงใหม่ พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงพระราชดำริว่า ถ้าไม่ปราบปรามเมืองเชียงใหม่ให้ราบคาบ หัวเมืองฝ่ายเหนือก็คงจะถูกพม่ารบกวนร่ำไป จึงเกณฑ์กองทัพยกขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่ พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเป็นแม่ทัพยกกองทัพไปทางชลมารค ไปตั้งชุมพลที่เมืองพิชัย แล้วยกกองทัพบกออกทางเมืองพิชัยไปยังเมืองเชียงใหม่ ให้เจ้าพระยาสุรสีห์เป็นนายทัพคุมพลหัวเมืองฝ่ายเหนือยกล่วงหน้าไปก่อน ฝ่ายโปมะยุง่วนจัดกองทัพยกออกมาตั้งค่ายรับนอกเมือง ถูกกองทัพหน้าของไทยตีแตกพ่ายกลับเข้าเมือง แต่ไทยจะตีหักเอาเมืองเชียงใหม่ไม่ได้ เพราะโปมะยุง่วนสู้รบต้านทานเป็นสามารถ พระเจ้ากรุงธนบุรีจึงมีพระราชดำรัสว่า
อันเมืองเชียงใหม่นี้ต้องทำนายอยู่ คำปรัมปราเล่าสืบ ๆ กันมาว่า กษัตริย์องค์ใดยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่นี้ ครั้งเดียวไม่สำเร็จต่อยกไปครั้งที่สองจึงจะตีได้ แม้นจะบุกรุกหักหาญเอาด้วยกำลังกล้าบัดนี้คงได้แต่จะเสียไพร่พลมาก และยกมาครั้งนี้ก็ยังจะได้ดูท่วงทีท่าทางและกำลังข้าศึกก็เห็นประจักษ์อยู่แล้ว ถ้ายกมาครั้งหลังเห็นคงจะได้ถ่ายเดียวครั้นแล้วพระเจ้ากรุงธนบุรีก็เลิกทัพกลับคืนกรุงธนบุรี
รบเขมรครั้งที่ 2
ครั้น พ.ศ.2314 เมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสร้างป้อมปราการกรุงธนบุรีเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มคิดการที่จะไปตีประเทศเขมรคืนให้นักองรามาธิบดีให้สำเร็จ ประจวบกับเหตุที่สมเด็จพระนารายณ์ราชา (นักองตน)เจ้ากรุงกัมพูชาได้ข่าวว่า พม่ายกกองทัพมารบไทยทางเมืองเหนือ คาดว่าไทยจะแพ้พม่า เห็นได้ทีจัดกองทัพให้มาตีเมืองตราดและเมืองจันทบุรี แต่ถูกกองทัพเมืองจันทบุรีตีแตกกลับไป พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงขัดเคืองเขมร จึงโปรดฯ ตั้งให้พระยายมราช เป็นเจ้าพระยาจักรีแทนเจ้าพระยาจักรี (แขก) และให้เป็นแม่ทัพบกยกทัพไปเมืองปราจีนบุรี พาพระรามราชา (นักองรามาธิบดี) ไปในกองทัพสำหรับให้เกลี้ยกล่อมพวกเขมรด้วย ให้ตีเมืองพระตะบอง โพธิสัตว์และพุทไธเพชร ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของขอม ส่วนพระองค์ยกทัพเรือออกทะเลทางปากน้ำเมืองสมุทรปราการ ไปประทับที่ปากน้ำเมืองจันทบุรี ให้พระยาโกษาธิบดีกองหน้ายกไปตีเมืองกำพงโสมก่อน ต่อมาอีกหกวันพระองค์ก็ยกกองทัพหลวงไปตีเมืองบันทายมาศได้ ตัวเจ้าเมืองเป็นญวนชื่อพระยาราชาเศรษฐีได้หลบหนีออกจากเมืองไปได้ จึงตั้งให้พระยาพิพิธผู้ช่วยราชการกรมท่าเป็นพระยาราชาเศรษฐี ครองเมืองบันทายมาศ แล้วเสด็จยกกองทัพไปตีเมืองพุทไธเพชรต่อไป
ฝ่ายกองทัพเจ้าพระยาจักรีก็ตีได้เมืองพระตะบอง เมืองโพธิสัตว์และเมืองบริบูรณ์ แล้วไปตีเมืองพุทไธเพชร นักองตนเห็นจะสู้รบต้านทานมิได้ ก็พาไพร่พลและครอบครัวหนีไปเมืองญวน กองทัพไทยก็ตีได้เมืองพุทไธเพชรได้โดยง่าย พระเจ้ากรุงธนบุรีจึงมอบราชสมบัติประเทศเขมรให้นักองรามาธิบดีครอบครองตามเดิม และให้เจ้าพระยาจักรีและพระยาโกษาธิบดีอยู่ช่วยราชการจนกว่าจะสงบราบคาบ แล้วก็เลิกทัพกลับกรุง ครั้งต่อมาเจ้าเมืองบันทายมาศคนก่อนที่หนีไปนั้น ไปส้องสุมผู้คนได้มากแล้วยกมาตีเมืองบันทายมาศ แต่ในที่สุดก็ต้องแพ้กลับไป พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเห็นว่า เมืองบันทายมาศอยู่ล่อแหลมมาก จะรักษาไว้ได้ยาก ป่วยแรงทแกล้วทหาร จึงเรียกพระยาราชาเศรษฐี เจ้าพระยาจักรีและพระยายมราชกลับกรุง
การตีเชียงใหม่ครั้งที่ 2
ในปี พ.ศ.2315 ขณะที่พระเจ้ากรุงธนบุรีเสร็จศึกเขมรใหม่ ๆ โปสุพะลาแม่ทัพพม่าซึ่งมาช่วยอยู่รักษาเมืองเชียงใหม่ยกกองทัพมาตีเมืองลับแลแตกแล้วก็ยกเลยลงมาตีเมืองพิชัย พระยาพิชัยจัดการป้องกันเมืองเป็นสามารถ และเจ้าพระยาสุรสีห์ก็ยกกองทัพขึ้นไปช่วยด้วย ไทยกับพม่าได้รบกันถึงอาวุธสั้น พม่าต้านทานไม่ได้ก็แตกพ่ายเลิกทัพกลับไปเมืองเชียงใหม่
ครั้นต่อมาใน พ.ศ.2316 โปสุพะลายกกองทัพมาตีเมืองพิชัยอีก พระยาพิชัยและเจ้าพระยาสุรสีห์ยกไพร่พลออกไปตั้งซุ่มสกัดอยู่ ณ ที่มีชัยภูมิกลางทาง พอกองทัพพม่ายกมาถึง เจ้าพระยาสุรสีห์กับพระยาพิชัยออกระดมตี เมื่อเข้าประจัญบาน พระยาพิชัยถือดาบสองมือคุมไพร่พลออกไล่ฟันพม่าอย่างเก่งกล้าจนดาบหัก จึงได้สมญาว่าพระยาพิชัยดาบหัก พม่าสู้ไม่ได้ก็แตกพ่ายถอยหนีกลับเชียงใหม่ พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงพระราชดำริว่า พม่ายกกองทัพมาย่ำยีหัวเมืองฝ่ายเหนือไม่หยุดหย่อน จำจะต้องยกกองทัพไปตีเชียงใหม่ให้ได้อย่างเด็ดขาด จึงเกณฑ์กองทัพฝ่ายเหนือและในกรุงรวมกำลังทั้งหมดประมาณ 35,000 คน ไปตั้งชุมพลอยู่ที่บ้านระแหงแขวงเมืองตาก
ฝ่ายพระเจ้ามังระเมื่อทราบว่า พระยาตากตั้งตัวขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินเมืองไทย สร้างกรุงธนบุรีเป็นราชธานี ก็คิดจะปราบปรามเมืองไทยที่ตั้งตัวขึ้นใหม่เพื่อมิได้ตั้งตัวติด จึงตระเตรียมเกณฑ์กองทัพเพื่อจะให้ยกมารบไทย คือจะให้โปสุพะลาเป็นแม่ทัพยกลงมาจากเมืองเชียงใหม่ทางหนึ่ง และปะกันหวุ่นเป็นแม่ทัพยกเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ทางหนึ่ง ตีหัวเมืองเข้ามาประจบกันที่กรุงธนบุรี ในคราวนี้ปะกันหวุ่นได้รับสั่งให้เกณฑ์ไพร่พลพวกมอญให้ทำทางที่ยกเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ และเกณฑ์มอญเข้ากองทัพเป็นอันมาก พวกมอญไม่พอใจพม่าก็เกิดกบฏลุกลามใหญ่โต มีพระยาเจ่งเจ้าเมืองเตริน (อัตรัน)เป็นหัวหน้ากบฏ พระเจ้าอังวะจึงให้อะแซหวุ่นกี้ถือพลมาปราบปรามหัวเมืองมอญที่กบฏ พวกมอญก็พากันหลบหนีเข้ามาในเขตแดนไทยเนือง ๆ ฝ่ายไทยก็ยินดีรับมอญหนีมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเห็นว่า การที่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นในแดนมอญเช่นนี้เป็นผลดีแก่ไทย เพราะทำให้พม่ายกเข้ามาตีเมืองไทยยังไม่มีช่อง ควรจะชิงตีเมืองเชียงใหม่ตัดกำลังพม่าเสียทางหนึ่งก่อน จึงยกกองทัพไปประชุมอยู่ที่เมืองตากมีจำนวน 15,000 และดำรัสให้เจ้าพระยาจักรีเป็นแม่ทัพหน้าคุมไพร่พลหัวเมืองฝ่ายเหนือยกขึ้นไปรบเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าพระยาสุรสีห์มีจำนวน 20,000 ขณะที่กองทัพไทยยกขึ้นไปถึงเมืองนครลำปางนั้น พระยาจ่าบ้านและพระยากาวิละ ขุนนางเมืองนครลำปาง ซึ่งเป็นแม่ทัพหน้าของพม่ามาขอสวามิภักดิ์เข้าด้วยกองทัพไทย พอกองทัพไทยยกไปถึงเมืองเชียงใหม่ก็เข้าล้อมเมืองไว้ พระเจ้ากรุงธนบุรีได้ยกหนุนตามขึ้นไปทีหลัง เสมียนตราของเจ้าพระยาสวรรคโลกได้เกลี้ยกล่อมชาวเมืองลำพูนและเชียงใหม่มาเข้าด้วยกองทัพไทยเป็นอันมาก พระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดฯ ให้คัดเลือกเอาชายฉกรรจ์ไปเข้ากับกองทัพเจ้าพระยาจักรี
ฝ่ายพม่าเมืองเชียงใหม่ยกกองทัพออกตั้งค่ายรบนอกเมืองอย่างสามารถ ถูกกองทัพเจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ตีแตกถอยเข้าเมือง โปสุพะลา โปมะยุง่วนเห็นว่า จะสู้ไม่ได้ก็ทิ้งเมืองพาครอบครัวหนีออกไปทางประตูช้างเผือกด่านค่ายเจ้าพระยาสวรรคโลกซึ่งยังตั้งไม่เสร็จ กองทัพไทยก็ได้เมืองเชียงใหม่และไล่ติดตามฆ่าฟันพม่าล้มตายและชิงครอบครัวพลเมืองกลับคืนมาได้เป็นอันมาก ครั้นเมื่อเสร็จศึกแล้ว เจ้าพระยาสวรรคโลกต้องรับพระราชอาญาเฆี่ยน 50 ที และถูกจำคุกด้วย การที่เจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ตีเมืองเชียงใหม่แตกได้รวดเร็วเช่นนี้ พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงพระโสมนัสยกพระหัตถ์ก็ตบพระเพลาทั้งสองข้าง ดำรัสสรรเสริญเจ้าพระยาทั้งสองว่านี่ จะว่าพี่ดี หรือน้องดีกว่ากันไฉน ครั้งนี้
ก่อนพระเจ้ากรุงธนบุรีจะยกกองทัพกลับกรุง ทรงตั้งให้พระยาจ่าบ้านเป็นพระยาวิเชียรปราการครองเมืองเชียงใหม่ พระยาลำพูนเป็นพระยาวัยวงศาครองเมืองลำพูน พระยากาวิละเป็นพระยาครองนครลำปาง และให้เจ้าพระยาจักรีอยู่ช่วยจัดการบ้านเมืองทั้งปวงให้ราบคาบเป็นปกติก่อน การรบครั้งนี้ได้พาหนะและเครื่องศัสตราวุธของข้าศึกเป็นเหตุให้ไทยได้หัวเมืองสำคัญ ๆ ในล้านนา มีเมืองน่าน เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง และเมืองแพร่ กลับมาอยู่ในอาณาจักรไทยตั้งแต่ พ.ศ.2317 เป็นต้นมาตราบเท่าทุกวันนี้
หน้าถัดไป >>>