วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
พระอภัยมณี
ตอน พระอภัยมณีครองเมืองผลึก
หน้า 3
พระอภัยกับศรีสุวรรณกลับเข้าเมืองแล้ว ก็ออกท้องพระโรง ดำรัสกับมหาเสนาในว่า อุศเรนเห็นจะกลับมาทำศึก จึงให้เตรียมการรับศึกเอาไว้แต่เนิ่น
เร่งตั้งป้อมซ่อมแปลงกำแพงไว้
เกณฑ์พวกไพร่พลหัดให้ชัดเจน
ทั้งม้ารถคชสารทหารรบ
ให้รู้ครบท่าทางทั้งดั้งเขน
ทั้งปากใต้ฝ่ายเหนือเร่งกะเกณฑ์
ออกตระเวณแว่นแคว้นแดนบุรี
ให้อาลักษณ์แต่งทำคำรับสั่ง
ไปปิดทั้งประตูบูรีศรี
แล้วบอกไปให้เมืองเอกโทตรี
ว่าใครมีวิทยาวิชาการ
ทั้งล่องหนคงทนเข้ายงยุทธ
เพลงอาวุธเข้มแข็งกำแหงหาญ
รู้ตำราฟ้าดินสิ้นชำนาญ
ประกอบการกลศึกที่ลึกลับ
ให้มาเป็นข้าเฝ้าเราจะเลี้ยง
ให้ชื่อเสียงรุ่งเรืองเครื่องประดับ
ต่างเห็นชอบนอบนบเคารพรัก
เสด็จกลับเข้าปราสาทราชวัง ฯ
ฝ่ายเสนาทุกตำแหน่งต่างก็พากันไปดำเนินการ
บ้างก่อป้อมซ่อมแปลงกำแพงใหญ่
บ้างฝึกไพร่หัดลองที่ท้องสนาม
กองตระเวณเกณฑ์นาวาอาสาจาม
เที่ยวตรวจตามอ่าวสมุทรจนสุดแดน ฯ
ในการป่าวประกาศหาคนดีมีฝีมือ มารับราชการนี้ได้กล่าวถึงนางวาลีมาอาสา
อยู่ภายหลังยังมีสตรีหนึ่ง
อายุถึงสามสิบสี่ไม่มีผัว
ชื่อวาลีสีเนื้อนั้นคล้ำมัว
รูปก็ชั่วชายไม่อาลัยแล
ทั้งกายาหางามไม่พบเห็น
หน้านั้นรอยฝีมีแต่แผล
เป็นกำพร้ามาแต่หล่อนยังอ่อนแอ
ได้พึ่งตายายอยู่ปลายนา
เป็นเชื้อพราหมณ์ความรู้ของผู้เฒ่า
แต่ก่อนเก่าเดิมบุราณนานหนักหนา
เป็นมรดกตกต่อต่อกันมา
นางอุตส่าห์เรียนเล่าจนเข้าใจ
รู้ฤกษ์ผาฟ้าดินสำแดงเหตุ
ทั้งไตรเพทพิธีคัมภีร์ไสย
ฯลฯ
นางวาลี ใคร่ที่จะได้ผัวดีที่มีบุญ พอรู้ข่าวเจ้าเมืองผลึกใหม่คือ พระอภัยก็มีความลุ่มหลง ครั้นรู้ว่าหาทหารชำนาญศึก ก็สมนึกยินดียิ่งนัก คิดหวังว่าความรู้ทางการสงครามที่เรียนไว้ จนจะเข้าไปเป็นนางห้ามของพระอภัย นางจึงแต่งตัวบอกกล่าวกับตายาย แล้วก็มุ่งเข้าวัง แล้วแจ้งความจำนงว่าตนต้องการเฝ้าเจ้าแผ่นดิน ตามประกาศหาคนดีมีวิชาข้างรบพุ่ง เสนาบอกว่า เรื่องทหารไม่ใช่การหญิง นางจึงตอบคำว่า
อันสงครามตามบทพระอัยการ
ใครผิดผลาญชีวันให้บรรลัย
ใครทำชอบกอบให้เป็นใหญ่ยิ่ง
ถึงชายหญิงก็ไม่ว่าหามิได้
ว่าใช่การท่านเห็นเป็นอย่างไร
หรือหญิงไปฆ่าชายไม่วายวาง


