สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 68/2557
เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
และการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ระยะที่ 1 เป็นการชั่วคราว
ตามที่ปรากฏข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อการจ้างแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย
จนเป็นผลให้แรงงานต่างด้าวอพยพ และละทิ้งงานกลับไปภูมิลำเนาของตนเอง
ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อการประกอบกิจการ ตลอดจนระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีความกังวลต่อผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนั้น
จึงขอแจ้งมาตรการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าวให้ทราบ ดังต่อไปนี้
1. ให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง ที่ใช้แรงงานต่างด้าวดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย
เพื่อให้แรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครองในการทำงาน และไม่ถูกบังคับใช้แรงงาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการ นายจ้าง ในอุตสาหกรรม ประมงและกิจการต่อเนื่อง
โดยในช่วงนี้ คสช. มีมาตรการผ่อนผันให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง
จัดทำบัญชีแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในความดูแลให้ครบถ้วน
เพื่อให้ง่ายต่อการจัดระเบียบต่อไป
2. ให้ผู้ประกอบการ นายจ้าง
และแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามแนวทางที่ราชการกำหนด
เพื่อให้ทางการไทยสามารถให้การคุ้มครองดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน ตามมาตรการระยะที่ 1
ที่ยังมีการผ่อนผัน แต่ยังต้องมีการควบคุม
3. ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ปราบปรามผู้กระทำผิดการค้ามนุษย์
และขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
4. เจ้าหน้าที่รัฐคนใดปล่อยปละละเลย
หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ กลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
แรงงานเด็ก สตรี และการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายแรงงาน
จะต้องถูกดำเนินการทางวินัย ทางอาญาทันที
5. ให้การดำเนินการข้างต้นสอดคล้องกับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลก
ตลอดจนมาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชน ด้านสิทธิแรงงาน และหลักการมนุษยธรรม
เพื่อความเป็นธรรม เสมอภาค และมีมนุษยธรรม
6. ให้คณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว ติดตามผลการดำเนินงานตามข้อ 1
2 3 4 5 และให้รายงานผลให้ คสช. ทราบต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ 17 มิถุนายน พุทธศักราช 2557
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 69/2557
เรื่อง การยื่นคำของบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558
ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 10/2557 เรื่อง
ให้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
ที่กำหนดให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่า
เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี
เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
หรือผู้ที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมายนั้น
เพื่อให้การจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด
ตลอดจนการยื่นคำของบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2558
ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ.2551
เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอันจะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดิน
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีประกาศดังต่อไปนี้
ข้อ 1
ให้คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการและคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ
ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ.2551
จัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว แล้วแต่กรณี
โดยให้สอดคล้องและอยู่ภายใต้กรอบของแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด
(พ.ศ.2557 - พ.ศ.2560)
รวมทั้งต้องเป็นไปตามแนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนด
และเมื่อจัดทำเสร็จสิ้นแล้วให้เสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเพื่อดำเนินการต่อไป
ข้อ 2
ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ร่วมกันพิจารณากลั่นกรองแผนปฏิบัติราชการประจำปีที่จัดทำตามข้อ 1
และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเป็นผู้เสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ข้อ 3
เมื่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการประจำปีที่เสนอตามข้อ
2 แล้ว
ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการส่งแผนปฏิบัติราชการดังกล่าวต่อสำนักงบประมาณเพื่อใช้ในการจัดสรรงบประมาณ
การส่งแผนปฏิบัติราชการต่อสำนักงบประมาณตามวรรคหนึ่ง
ให้ถือว่าจังหวัดและกลุ่มจังหวัดได้ยื่นคำขอของบประมาณต่อสำนักงบประมาณตามกฏหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 19 มิถุนายน พุทธศักราช 2557
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ