สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
บัญญัติ 10 ประการ วิชาเศรษฐศาสตร์
บทบัญญัติที่
1
บทบัญญัติที่ 2
บทบัญญัติที่
3
บทบัญญัติที่
4
บทบัญญัติที่
5
บทบัญญัติที่
6
บทบัญญัติที่
7
บทบัญญัติที่
8
บทบัญญัติที่
9
บทบัญญัติที่
10
บทบัญญัติที่ 2 : ต้นทุนของสิ่งหนึ่งคือสิ่งที่คุณยอมเสียไปเพื่อให้ได้ของสิ่งนั้นมา
เพราะคนเผชิญภาวะ ได้อย่าง-เสียอย่าง
การตัดสินใจจะทำกิจกรรมใดจึงต้องเปรียบเทียบระหว่างต้นทุนและผลประโยชน์ของกิจกรรมนั้นกับกิจกรรมอื่น
ๆ ที่เป็นทางเลือก ในหลายกรณี
ต้นทุนของบางกิจกรรมอาจไม่ชัดเจนอย่างที่เราคิดไว้แต่แรก
ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือไม่
การเรียนต่อมีประโยชน์คือได้ความรู้เพิ่มขึ้นและมีโอกาสได้งานที่ดีขึ้นในอนาคต
แล้วด้านต้นทุนละ? คุณอาจตอบว่าต้องคำนวณค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ
ค่าห้องพักและอาหาร
แต่ต้นทุนเหล่านี้ก็ยังไม่ครอบคลุมต้นทุนทั้งหมดที่คุณยอมสละเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอีกหนึ่งปี
ปัญหาแรกที่เกิดขึ้นจากคำตอบข้างต้นคือเราได้รวมต้นทุนบางอย่างที่ไม่ใช่ต้นทุนที่แท้จริงในการเรียนมหาวิทยาลัยเข้าไว้ด้วย
แม้คุณจะเลิกเรียน คุณก็ยังต้องจ่ายค่าที่พักและค่าอาหารอยู่ดี
ค่าห้องพักและอาหารเป็นต้นทุนในการเรียนต่อก็แต่ในกรณีที่คุณเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีราคาค่าห้องพักและอาหารแพงกว่าที่อื่น
ๆ ทั่วไป
มิหนำซ้ำค่าห้องและค่าอาหารเมื่อเรียนต่ออาจถูกกว่าค่าห้องและค่าอาหารหากคุณใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ได้เรียนต่อก็เป็นได้
สำหรับกรณีเช่นนี้
การประหยัดค่าห้องและค่าอาหารถือเป็นประโยชน์ที่ได้จากการเรียนต่อมหาวิทยาลัย
ปัญหาที่สองของการคำนวณต้นทุนข้างต้นก็คือ
การละเลยต้นทุนที่ใหญ่ที่สุดในการเรียนต่อมหาวิทยาลัย นั่นคือ เวลา
เมื่อคุณใช้เวลาอีกหนึ่งปีในการเข้าฟังบรรยาย อ่านตำราเรียน เขียนรายงาน
คุณก็ไม่สามารถใช้เวลานั้นทำงานได้ สำหรับนักเรียนส่วนใหญ่
เงินเดือนทั้งหมดที่พวกเขาไม่ได้รับระหว่างเรียนมหาวิทยาลัยก็คือต้นทุนหลักที่สำคัญในการศึกษาต่อนั่นเอง
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ของสิ่งหนึ่งคือ
สิ่งที่คุณยอมสละไปเพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งนั้น การตัดสินใจทำอะไรก็ตาม
ไม่ว่าจะเรียนต่อหรือไม่
ผู้ตัดสินใจควรคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น
นักกีฬาที่อาจทำเงินได้เป็นล้าน ๆ
หากออกจากโรงเรียนไปเป็นนักกีฬาอาชีพจะตระหนักดีว่าต้นทุนค่าเสียโอกาสในการเรียนต่อของเขาสูงมาก
และไม่น่าแปลกใจที่เขาเหล่านั้นเลือกออกจากโรงเรียน เนื่องจาก
ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนน้อยกว่าต้นทุนที่เกิดขึ้น


