ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
สตรีมุสลิมในประวัติศาสตร์
โดย : สุภัตรา ภูมิประภาส
นักวิชาการอิสระ (สาขาประวัติศาสตร์ สื่อ และสิทธิสตรี)
ตำนานของนครอาเจะห์
อ้างถึงฟัตวาผู้นำปกาศิตจากนครเมกกะมาถึงนครอาเจะห์ ดารุสสลามในปีพุทธศักราช 2242
(ค.ศ.1699) ประกาศว่า สตรีไม่ได้รับอนุญาตให้ปกครองดินแดนใดในรัฐอิสลาม
เพราะขัดกับพระโองการขององค์อัลเลาะห์ ปีนั้น เป็นปีสุดท้ายแห่งรัชสมัยของ ราตู
กัมมาลัต (Sri Ratu Kamalat Syah Zinat al_Din)
สตรีคนสุดท้ายที่ขึ้นครองบังลังก์นครอาเจะห์ ดารุสสลาม
พระนางถูกขับจากบังลังก์ด้วยปกาศิตจากนครเมกกะ
กว่าสามศตวรรษนับจากนั้น พุทธศักราช 2544 (ค.ศ.2001) นางเมกะวาตี
ซูการ์โนบุตรี (Megawati Soekarnoputri)
ชนะการเลือกตั้งเพื่อเข้ารับตำแหน่งประมุขหญิงคนแรกของสาธารณรัฐอินโดนิเซีย
ประเทศที่มีประชาชนมุสลิมมากที่สุดในโลก
เรื่องราวแต่โบราณของอดีตผู้ปกครองหญิงในดินแดนภาคพื้นสมุทรของอุษาคเนย์นั้นปรากฎอยู่ในบันทึกของพ่อค้าและนักเดินทางชาวตะวันตกจำนวนมาก
ด้วยบุรุษนักแสวงโชคเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องผูกสัมพันธ์
สยบยอมต่อสตรีที่มีอำนาจอยู่เหนือดินแดนที่พวกเขาดั้นด้นเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาแสวงโชค.
บันทึกของพวกเขายังสะท้อนภาพและบทบาทอันมีพลังของสตรีต่างชนชั้นที่พวกเขาพบเจอในนครรัฐต่างๆ
บนเส้นทางการเดินเรือ ..จากท่าเรือ ตลาดร้านค้า จนถึงพระราชวัง
เรื่องราวของสตรีเหล่านี้ที่ถูกบันทึกไว้เต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลายและชวนติดตาม
ทั้งเรื่องราวของ
บทบาทของสตรีอีกหลายคนในสังคมมุสลิม ถูกบันทึกชื่อไว้ในพงศาวดารราชวงศ์ ตำนานพื้นถิ่น บ้างก็ถูกสะท้อนผ่านบทกวี เฉกเช่นเรื่องราวของ นางโสเภณีผู้ต้องคำสาบ แห่งอาเจะห์. เรื่องที่ถูกเล่าขานผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปีเหล่านี้ บางเรื่องอาจถูกกร่อนเซาะไปพร้อมกาลเวลา หลายเรื่องยังคงปรากฎเป็นหลักฐานให้เล่าขานสืบต่อ


