วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
ร้อยแก้วยุคแรกในสมัยรัตนโกสินทร์
สรณัฐ ไตลังคะ
ประวัติศาสตร์นิพนธ์: วาทกรรม ที่ ประกอบสร้าง
ประวัติศาสตร์เป็น ศาสตร์ หรือ ศิลป์
แนวคิดของไวต์กับการศึกษาประวัติศาสตร์นิพนธ์ไทย
พงศาวดารกับขนบวรรณศิลป์ในวรรณกรรมไทย
การควบคุมอดีต: การสร้างความสัมพันธ์เชิงอำนาจ
เรื่องเล่าในพงศาวดาร:
บันเทิงคดีร้อยแก้วยุคแรกของสมัยรัตนโกสินทร์
บรรณานุกรม
การควบคุมอดีต: การสร้างความสัมพันธ์เชิงอำนาจ
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐ กับ
พงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) มีรายละเอียดต่างกันมาก
ในพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐซึ่งบันทึกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์
กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ท้าวศรีสุดาจันทร์ 7 บรรทัด ในขณะที่
พงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ซึ่งชำระในสมัยรัชกาลที่ 1 ปรากฏ 8
หน้า (ประมาณ 149 บรรทัด) ความแตกต่างดังกล่าวแสดงว่า
ผู้ชำระประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 1
ได้ข้อมูลมากกว่าผู้ชำระประวัติศาสตร์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์
จึงเรียบเรียงได้ละเอียดว่ากระนั้นหรือ นอกจากนี้คำถามต่อไปที่เกิดขึ้นก็คือ
เหตุใดจึงเกิดการชำระโดยเพิ่มเติมรายละเอียด เปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนวิธีการเขียน
จอร์จ ออร์เวลล์ (George Orwell) เขียนไว้ในนวนิยายเรื่อง 1984
ว่าแท้ที่จริงแล้วคนที่มีอำนาจในปัจจุบันย่อมต้องควบคุมอดีต
และคนที่ควบคุมอดีตได้ย่อมสามารถควบคุมอนาคต นั่นคือ
คนในปัจจุบันย่อมต้องการอ้างอิงบรรพบุรุษในการกำหนดที่ทางของตนเองและเพื่อสร้างความชอบธรรมในการดำเนินงานในอนาคต
ส่วนเฮย์เดน ไวต์อ้างความคิดของชอง-ปอล ซาตร์
นักเขียนและนักปรัชญาฝรั่งเศสในงานเขียนเรื่อง Being and Nothingness (1943) ว่า
อดีตเป็นสิ่งที่เราเลือกที่จะจดจำ และเราเลือกอดีตแบบเดียวกับที่เราเลือกอนาคต
ดังที่ได้กล่าวแล้วว่า นักประวัติศาสตร์ เลือกใช้ ตัดทิ้ง หรือ เน้น
บางเหตุการณ์ให้เด่นกว่าเหตุการณ์อื่นตามจุดมุ่งหมายและอุดมการณ์ทางการเมืองบางอย่าง
การที่ผู้ชำระประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 1
เลือกที่จะจดจำหรือลืมเหตุการณ์บางเหตุการณ์น่าที่จะมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจอะไรบางอย่าง
และน้อมนำไปสู่การกระทำที่ต้องประสงค์ในขณะนั้น ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ ฉาก
เหตุการณ์พม่ายกทัพมาตีไทยในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดินั้นมีการบรรยายอย่างละเอียดพิสดาร
ทั้งการวางแผนทางยุทธศาสตร์ยุทธวิธี รายละเอียดของกองทัพทั้งสองฝ่าย
กลยุทธ์ในการทำลายกองทัพเรือของพม่า ฯลฯ
เหตุการณ์ตอนนี้แสดงนัยถึงสภาวะสมัยรัชกาลที่ 1
เพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมืองบางอย่าง นิธิ เอียวศรีวงศ์ ใน
ประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ในพระราชพงศาวดารอยุธยา (2543) กล่าวว่า
การชำระพระราชพงศาวดารจึงไม่ใช่เป็นเพียงการเติมเนื้อความให้บริบูรณ์จากพระราชพงศาวดารฉบับเก่าเท่านั้น
แต่หมายถึงการแก้ไขดัดแปลงแนวคิดที่มีต่ออดีตทั้งหมดของสมัยที่ชำระพระราชพงศาวดารนั้นอีกด้วย
ผลประโยชน์ทางการเมืองของปัจจุบัน ความหวัง ความกลัว
และความต้องการของรัฐบาลที่อำนวยการชำระพระราชพงศาวดาร
จึงถูกแทรกเข้าไปในภาพของอดีตที่จงใจวาดขึ้นใหม่โดยไม่ตั้งใจ
ส่วนสุจิตต์
วงษ์เทศได้ตีความกรณีของท้าวศรีสุดาจันทร์ว่า
นักประวัติศาสตร์ที่เขียนประวัติศาสตร์นิพนธ์ย่อมมีอุดมการณ์บางอย่าง
หรือเขียนเพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่าง ด้วยหลักฐานเดียวกัน สุจิตต์
วงษ์เทศก็สามารถตีความให้เห็นว่า
ประวัติศาสตร์นิพนธ์ดังกล่าวแสดงความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างราชวงศ์ละโว้
อโยธยา และราชวงศ์สุพรรณภูมิ
รวมทั้งผู้ที่เสียประโยชน์จากการมีอำนาจของท้าวศรีสุดาจันทร์อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มเจ้านายเชื้อสายราชวงศ์สุโขทัย
(นั่นก็คือ กลุ่มพระพิเรนทรเทพ)
และฝ่ายผู้ชนะย่อมบันทึกเหตุการณ์ในลักษณะที่กล่าวร้ายว่าท้าวศรีสุดาจันทร์คบชู้
ฆ่าพระไชยราชาธิราชและพระยอดฟ้า


