ปรัชญา อภิปรัชญา ญาณวิทยา จิตวิทยา ตรรกศาสตร์ >>
ปรัชญาการเมืองของกรีก
ปรัชญาการเมืองสนับสนุนอำนาจเด็ดขาด
ปรัชญาการเมืองแบบเสรีนิยม (Liberalism)
ข้อโจมตีระบบอำนาจเด็ดขาด (Absolutism)
สาธารณรัฐอภิชนาธิปไตย
ทฤษฎีว่าด้วยเสรีภาพของการเมือง
แนวความคิดในภาคปฏิบัติ
ทฤษฎีว่าด้วยเสรีภาพของการเมือง
คนทั่วไปเข้าใจว่า เสรีภาพ คือ ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่ถ้าเราทำตามใจชอบ
คนอื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็จะไม่มีเสรีภาพเช่นกัน ดังนั้น
จึงมีการอธิบายเสรีภาพทางการเมืองทีแท้จริง ดังนี้
1) เสรีภาพ คือ
สิทธิที่จะทำในสิ่งที่ต้องการและไม่ถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ
โดยสิ่งที่กำหนดเสรีภาพ คือ กฎหมาย เสรีภาพจึงเป็นอำนาจของกฎหมาย เสรีภาพ คือ
สิทธิอำนาจอันชอบธรรมที่กฎหมายอนุญาต
2) เสรีภาพ คือ
ความสงบทางจิตใจของประชาชนคนหนึ่งที่จะไม่เกรงกลัวประชาชนอีกคนหนึ่ง กล่าวคือ
มีหลักประกันในความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ความมั่นคง
นอกจากนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับทฤษฎีนี้ ยังมีการพูดถึง การถ่วงดุลอำนาจ
ดังนี้
เสรีภาพของประชาชนจะไม่สามารถมีได้ หากผู้ปกครองลุแก่อำนาจ
มนุษย์ทุกคนที่มีอำนาจ มักลุแก่อำนาจ ใช้ไม่ไม่หยุดยั้งจนกว่าจะพบขอบเขตจำกัด
แต่ก็ไม่รู้ว่าขอบเขตอยู่ไหน
การลุแก่อำนาจจะหยุดยั้งได้ โดยจัดให้อำนาจยับยั้งอำนาจ คือ
ไม่ให้อำนาจรวมอยู่ในองค์กรเดียวกัน มิเช่นนั้นทุกสิ่งอย่างจะสูญเสีย
หากผู้ปกครองเป็นผู้ใช้อำนาจทั้ง 3 ทาง
อิทธิพลทางความคิด คือ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน รัฐสภา ประธานาธิบดี
ระบบตุลาการ
3. Jean Jacques Rousseau (1712-1778)
-
ต้นตระกูลเป็นชาวฝรั่งเศส เขาเกิดที่ Geneva ทวดของเขาทิ้งมรดกให้ไว้เป็นจำนวนมาก
แต่พอของเขาก็ผลาญจนหมดสิ้น กลายเป็นชนชั้นกฎุมพีที่ตกกระป๋อง กำพร้าแม่
ป้ากับน้าดูแลเขา เยาว์วัยตกระกำลำบาก เคยทำงานเป็นช่างแกะสลัก
แล้วต้องตกต่ำไปเป็นคนรับใช้ ขโมยของเขากิน
แต่อย่างไรก็ตามเขาก็สนใจศึกษาค้นความหาความรู้ด้วยตนเอง
- ชนะการประกวดเรียงในหัวข้องาน ความก้าวหน้าของศิลปะและศาสตร์ต่างๆ
ทำให้ชีวิตมนุษย์ดีขึ้น แต่ Rousseau กับสวนกระแสโดยเขียนเรียงความ มีสาระทำนองว่า
อารยธรรมทำให้มนุษย์เสื่อมทรามลง มนุษย์ที่ดี คือ
มนุษย์ที่อยู่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ
ต้นกำเนิดแห่งความไม่เสมอภาคของมนุษย์ (Origin of Inequality) จำแนกไว้ 2
ประเภท
1) ตามธรรมชาติ - สมอง ร่างกาย = ชีววิทยา
2) ที่ไม่เป็นตามธรรมชาติ ได้แก่ ความแตกต่างที่เกิดจากสภาวะทางสังคม เช่น
ชาวนาญี่ปุ่นรวย ชาวนาไทยจน
คำอธิบาย มนุษย์ในสภาวะธรรมชาติ สติปัญญายังไม่พัฒนา จิตใจดีและมีศีลธรรม
อ่อนไหวต่อความทุกข์ทรมานของคนอื่น เพราะว่ามนุษย์ยังอยู่ในฐานะต่างคนต่างอยู่
โอกาสที่จะเกิดความอยาก ความโลภ การต่อสู้ยังไม่มี แต่เมื่ออยู่รวมกันเป็นสังคม
นิสัยมนุษย์ค่อยๆ เปลี่ยนไปในทางเลวลง เช่น มนุษย์อยู่กันเป็นครอบครัว พ่อ-แม่-ลูก
มีความคิดในการสะสม แก่งแย่ง ต่อสู่ระหว่างกันในครอบครัว มนุษย์ที่มีปัญญา
มีความฉลาด ก็เริ่มต้นเอาไม้มาปักล้อมรั้ว แล้วกล่าวว่า นี้คือที่ของฉัน
เพื่อให้ทรัพย์สมบัติ ที่ดินมีหลักประกัน
แล้วก็สถาปนาสังคมหรือรัฐขึ้นมาคุ้มครองทรัพย์สินของตน โดยหลอกลวงผู้อื่นว่า
ภายใต้กฎหมายและรัฐจะเกิดหลักประกันในสังคม นี้คือ แหล่งที่มาของสังคมและกฎหมาย
เพราะฉะนั้น Rousseau มองสังคมกับรัฐในทางที่ไม่ดี
มนุษย์เกิดมาอย่างอิสระหรือเสรี แต่ทุกหนทุกแห่งต้องอยู่ใต้พันธนาการ
กฎหมายกับรัฐสร้างเครื่องพันธนาการแก่ผู้อ่อนแอ
แต่เสริมสร้างพลังแก่ผู้มีอำนาจ
ปรัชญาของ Rousseau ทิ้งเชื้อสังคมนิยม
เป็นพื้นฐานหรือรากเหง้าลัทธิที่ต้องการให้ทรัพย์สินเป็นของส่วนรวม
ล้มล้างทรัพย์สินส่วนบุคคล ปัจจัยการผลิต ทำลายความแตกต่างทางชนชั้น
สัญญาประชาคม (The Social Contract) (1762)
ส่วนที่ 1:
ความชอบธรรมแห่งอำนาจ
คนที่แข็งแรงที่สุด ก็ไม่อาจแข็งแรงพอเป็นนายได้คลอดไป
ถ้าไม่เปลี่ยนกำลังมาเป็นสิทธิ การเชื่อฟังเป็นหน้าที่
แต่เป็นเพราะประชาชนเชื่อว่า ผู้ปกครองมีสิทธิที่จะปกครอง
และปกครองได้เพราะประชาชนเชื่อฟังอำนาจ มีความรู้สึกว่ามีหน้าที่ที่จะทำตาม เช่น
เลือกตั้ง
Rousseau อธิบายว่าพันธะสังคมไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของคำสั่ง
หรือสิทธิของผู้แข็งแรงสุด เพราะพันธะจะสลายไปพร้อมกับกำลัง ถ้าต้องเชื่อฟัง
เราก็ไม่ต้องเชื่อฟังโดยหน้าที่
ส่วนที่ 2: ที่มาของความชอบธรรมแห่งอำนาจ
ความชอบธรรมแห่งอำนาจไม่ได้เกิดจากพ่อแม่ แต่มาจากสัญญาประชาคม
ซึ่งเกิดจากเจตจำนงอิสระของบุคคลที่รวมตัวกันเข้าเป็นสังคม ทำสัญญาเบ็ดเสร็จ
แต่ละคนมอบสิทธิตามธรรมชาติแก่สังคมเหมือนกันหมด ทำให้เกิดองค์อธิปัตย์หรือมวลชน
องค์อธิปัตย์จะปฏิบัติในนามของทุกคน สิ่งที่กระทำไปถือเป็นเจตจำนงของประชาชน
เจตจำนงทั่วไปแสดงออกโดยเสียงข้างมาก แต่ทฤษฎีของ Rousseau ก็เป็นเสมือนดาบ
2 คม กล่าวคือ ประชาธิปไตยทางตรงอาจนำไปสู่เผด็จการเสียงข้างมาก
และเสียงข้างมากที่ถือว่าเป็นเจตจำนงทั่วไป ทำให้เสียงข้างน้อยเป็นความคิดที่ผิด
แม้ Rousseau จะถือเสียงข้างมาก แต่เขาก็ไม่ต้องการกีดกันคนออกเสียง
เพราะสิทธิออกเสียง = สิทธิโดยทั่วไป
- คุณลักษณะของอำนาจอธิปไตย คือ เจตจำนงทั่วไป เกิดจากสัญญาประชาคม
- ไม่อาจโอนหรือมอบหมายให้แก่กันได้
- อำนาจอธิปไตยไม่อาจแบ่งแยกได้
- ผิดพลาดไม่ได้ เจตจำนงทั่วไปต้องถูกต้องเสมอ โน้มไปทางประโยชน์สาธารณะ
- เป็นอำนาจเด็ดขาด
- ความคิดทางสังคม
Rousseau ต้องการสร้างความยุติธรรมในสังคม ลดช่องว่าง คนรวย-คนจน
ต้องการให้รัฐมั่นคง มีเสถียรภาพ ปรับฐานะคนรวย-คนจน ให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด
คนรวยกับคนจนยิ่งแตกต่างกันมากเท่าไร สังคมก็จะมีแต่ความทุกข์ทรมาน
เศรษฐี เป็นที่มาของ กิเลศ ตัณหา กดขี่
ยาจก เป็นที่มาของ ปัญหา ภาระต่างๆ ไม่จบสิ้น
สังคมที่แตกต่างกันมากเช่นนี้ จะเกิดความหายนะต่อผลประโยชน์ส่วนรวม
กลายเป็นทรราชย์ เศรษฐีกลัวยาจกต้องกดขี่ เพื่อรักษาฐานะ เพราะยาจกอาจลุกฮือ
ลบล้างทรัพย์สินของเศรษฐี ระหว่างทั้งสองชนชั้นจะมีการขายเสรีภาพสาธารณะ
เพราะฉะนั้นต้องมีแนวทางสายกลาง วางรากฐานความเท่าเทียมกันทางสังคม
สร้างกฎหมายที่ยุติธรรม