สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
สถาบันที่สำคัญของสหภาพยุโรป
สมาชิกสหภาพยุโรป
การรวมกันของสมาชิกในทวีปยุโรป
ยุโรปความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกามิติใหม่
ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สำคัญคือ เงินยูโร
บทบาทมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาในองค์การการค้าโลกกับสหภาพยุโรป
สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป
การกีดกันการค้าที่มิใช่ภาษีในอุตสาหกรรมอาหาร
ยุโรปกับสหรัฐอเมริการในมิติใหม่
เป้าหมายและวิธีการของอียู
การกีดกันการค้าที่มิใช่ภาษีในอุตสาหกรรมอาหาร
สหภาพยุโรป
- ประกาศห้ามใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ 4 ชนิด โดยอ้างว่ายาปฏิชีวนะดังกล่าวอาจทำให้เกิดความต้านทานแบคทีเรียในร่างกายมนุษย์ต่อยารักษาโรคทั่วไป
- ตรวจสินค้ากุ้งและไก่ที่นำเข้าจากไทยทุก consignment อย่างเข้มงวด หากตรวจพบสารไนโตรฟลูแรนตกค้างจะทำลายทิ้งทันที
- กำหนดให้ใช้สาร Benzoic Acid (สารรักษาและถนอมกุ้งต้มสุก) ได้ไม่เกิน 0.2% สำหรับกุ้งทุกชนิด ยกเว้นกุ้ง Crangon Crangon ซึ่งสามารถใช้สาร Benzoic Acid ได้ถึง 0.6% เพราะสหภาพยุโรปจับกุ้ง Crangon Crangon ได้
การบังคับให้สถานแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้นมีสุขลักษณะเทียบเท่าโรงงานแปรรูปสเปน
- ห้ามนำเข้าปลาหมึกแช่เย็นแช่แข็ง หากตรวจพบสาร Cadmium เกินกว่า 1 ppm. ในขณะที่มาตรฐานสหภาพยุโรปกำหนดไว้ไม่เกิน 2 ppm.
- กำหนดระดับสาร 3-MCPD (สารก่อมะเร็ง) ในซอสปรุงรสที่ปริมาณ 0.02 ppm. ในขณะที่ CODEX ยังไม่มีการกำหนดระดับสาร 3-MCPD ที่เป็นมาตรฐาน
- กำหนดให้ต้องติดฉลากสินค้าที่มีส่วนผสมของ GMOs (เริ่มมีผลบังคับใช้ตุลาการ 2545)
- กำหนดให้ต้องติดฉลาก Novel Food และ Novel Feed โดยเฉพาะที่เป็น GMOs (เริ่มมีผลบังคับใช้ตุลาการ 2545)
ญี่ปุ่น
- ตรวจสอบไก่นำเข้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากพบเชื้อ VRE (Vancomycin Resistant Enteroccocus) คาดว่ามีสาเหตุมาจากการใช้ยา Avopracin ผสมในอาหารสัตว์
- ใช้กฎหมาย Domestic Animal Infection Control Law และ Food Sanitation Law ห้ามนำเข้าเนื้อสุกรแช่เย็น แช่แข็งจากไทย เนื่องจากโรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย
- กำหนดให้ตรวจสอบยาปฏิชีวนะตกค้างในกุ้ง 100% ได้แก่ Oxolinic acid และ Oxytetracycline
ออสเตรเลีย
- กำหนดอุณหภูมิในการต้มไก่สุกสูง 70ํC/114 นาที และระยะเวลาการต้มนานมาก โดยอ้างว่าประเทศไทยมีโรค IBD (Infectious Bursal Disease) ทำให้ไก่ไทยไม่สามารถเข้าตลาดได้
- กำหนดให้จัดทำ Risk Analysis เกี่ยวกับเชื้อ IBD (Infectious Bursal Disease) ในไก่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ประกอบการพิจารณาของออสเตรเลีย
- ปฏิเสธการนำเข้าผักและผลไม้กระป๋องของไทยหลายชนิด ด้วยเงื่อนไขด้านสุขอนามัยเกี่ยวกับการปนเปื้อน หรือมีส่วนผสมของสารเคมีบางชนิดที่ออสเตรเลียไม่อนุญาตให้ใช้ในการผสมอาหาร
ฮ่องกง
ห้ามนำเข้าเนื้อสุกรแช่เย็น หากตรวจพบว่ามีสารเร่งเนื้อแดง (Beta
Agonists) โดยจะกักสินค้าเพื่อตรวจหาสารดังกล่าวก่อน ซึ่งใช้เวลา 5
วันทำให้กลายเป็นเนื้อสุกรแช่แข็งทำให้เกิดความเสียหายด้านราคา
สหรัฐอเมริกา
กำหนดมาตรการตรวจสอบโรงงานผลิตสินค้าอาหารสำเร็จรูปประเภท Low Acid
Canned Food โดยเฉพาะผักและผลไม้กระป๋องที่จะส่งไปจำหน่ายในสหรัฐ
ทำให้เป็นข้อจำกัดในการส่งออก
กลุ่มสแกนดิเนเวีย
- กำหนดระดับปนเปื้อนสูงสุดของดีบุกในผลิตภัณฑ์ผักผลไม้กระป๋องที่ 150 ppm.
ในขณะที่ Codex กำหนดไว้ที่ 250 ppm.สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป ฟิลิปปินส์
- ใช้เงื่อนไขด้านสุขอนามัยเกี่ยวกับ 1) ปัญหาโรคแมลงและศัตรูพืช 2) ปัญหาการปนเปื้อนหรือมีการตกค้างของสารเคมีเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดในการกักกันตรวจสอบห้ามนำเข้าและทำลายสินค้าผักและผลไม้สดของไทยหลายชนิด
สิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง
กำหนดปริมาณตกค้างของสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ไว้ในระดับที่ต่ำ
หรือห้ามใช้กับผลไม้สดทำให้เป็นข้อจำกัดในการถนอมรักษาคุณภาพสินค้า เช่น ลำไยสด


