วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา >>
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก
และผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนกับระบบนิเวศในทวีปเอเชีย
ในส่วนที่เกี่ยวกับระบบนิเวศทั้งบนบกและในมหาสมุทร ผู้วิจัยในส่วนของเอเชียได้สรุปไว้ดังนี้ : -
- ในช่วงปีหลัง ๆ นี้
ศักยภาพในการให้ผลผลิตของพืชในเกือบทุกประเทศในเอเชียมีแนวโน้มลดลง
ซึ่งดูเหมือนจะเกิดจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ
ซึ่งส่งผลทำให้เกิดการระบาดของโรคพืชและการขาดน้ำมากขึ้นและถี่ขึ้น
ในเขตเอเชียกลาง, เอเชียตะวันออก, เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศบก (terrestrial ecosystem) และระบบนิเวศมหาสมุทร
(marine ecosystems) เริ่มปรากฏชัดขึ้น(HC)
- การเพิ่มขึ้นของ GHG จะมีผลทำให้ความผันผวนลมฟ้าอากาศระหว่างปี (inter
annual variability) และภายในฤดูกาลต่าง ๆ (intra-seasonal variability)
ของภูมิภาคเอเชียเป็นไปอย่างมีนัยสำคัญเมื่อสิ้นศตวรรษที่ 21 นี้ (HC)
- การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น มีพายุหมุนรุนแรงขึ้น
(intense cyclonic variability) คลื่นและลมในทะเลสูงมากขึ้น
ทำให้เกิดภัยพิบัติต่อพื้นที่ชายฝั่งในเขตเอเชียตะวันตก เอเชียใต้
และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากยิ่งขึ้น (HC)
- อุณหภูมิพื้นผิวที่ร้อนขึ้นและการผิดเพี้ยนไป (shift)
ของฤดูฝนในเกือบทุกประเทศของทวีปเอเชีย จะทำให้ผลผลิตพืชลดลง (MC)
เนื่องจากความเครียดที่เกิดจากความร้อน (thermal stress)
ความแห้งแล้งและอุทกภัยจะรุนแรงขึ้น อันเนื่องจากความเสื่อมโทรมของดิน (soil
degradation) น้ำท่วมชายฝั่งทะเล และการรุกล้ำของน้ำเค็มเข้าไปในแหล่งน้ำจืด
เนื่องจากการสูงขึ้นของระดับน้ำทะเล (ทำให้มีพื้นทีเพาะปลูกลดน้อยลง)
ผลผลิตของธัญพืชในเอเชียใต้ (SA) คาดว่า จะลดลงไปประมาณ 4-10% ในสิ้นศตวรรษนี้
(MC)
- การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมีศักยภาพทำให้เกิดภาวะขาดแคลนทรัพยากรน้ำ (water
resources stresses) ในเกือบทุกภูมิภาคของเอเชีย
ปริมาณ/คุณภาพน้ำจืดที่จะมีให้ใช้ได้ในบริเวณเอเชียกลาง เอเชียใต้
เอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) คาดว่า
จะได้รับการกระทบกระเทือนมากขึ้น และทำให้เกิดความยากลำบากแก่ฅนนับพันล้าน
(billion people) ในราว ๆ ปี ค.ศ. 2050 (HC) อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในเอเชีย
จะทำให้ธารน้ำแข็ง (glaciers) บนเทือกเขาหิมาลัยลดน้อยถอยลง (MC)
ดังนั้นการรู้จักใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในด้านการชลประทาน และ
การเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการน้ำชลประทานจะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
- การจับปลาเกินกำลังการผลิต
ทั้งในทะเลและบนบกในเกือบทุกประเทศของเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำลดลงอย่างกรวดเร็วดังที่ทราบกันมาแล้ว
การเปลี่ยนแปลงทิศทางและความเร็วของกระแสน้ำ อุณหภูมิของน้ำ ความเค็มของน้ำทะเล
ความรุนแรง (strength)
ของการคลุกเคล้าขึ้นและลงระหว่างผิวน้ำและน้ำทะเลที่อยู่ลึกลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตก
และมหาสมุทรอินเดียตอนเหนือจะเพิ่มมากขึ้น
ทั้งเนื่องจากอุณหภูมิและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นจะเป็นผลทำให้ผลผลิตของปลาในเอเชียลดน้อยลง(HC)
การท่วมของน้ำทะเลบริเวณชายฝั่งจะทำให้อุตสาหกรรมสัตว์น้ำของเอเชียได้รับความเสียหาย
(HC)
-
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในเอเชียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเพิ่มขึ้นของโรคระบาดและการเสียชีวิตเนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บ
อันเนื่องมาจากการเกิดอุทกภัยและความแห้งแล้ง
คาดว่าจะเกิดขึ้นในเขตเอเชียตะวันออก, เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(HC)
การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิของน้ำชายฝั่งทะเลจะส่งผลให้การเพิ่มขึ้นและมีพิษภัยมากขึ้นของอหิวาตกโรค(Cholera
)ในเอเชียใต้
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลต่อความหลากหลายทางชีวภาพ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและสิ่งปกคลุมพื้นที่ดิน และการเพิ่มขึ้นของพลเมืองในทุกประเทศของทวีปเอเชีย ทั้งพันธุ์พืชและสัตว์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ อันเนื่องจากถิ่นที่อยู่อาศัยอยู่กระจัดกระจาย (habitat fragmentation)มากขึ้น (MC) การถูกคุกคามในเสถียรภาพทางนิเวศ (ecological stability) ของพื้นที่ชุ่มน้ำ ป่าโกงกาง และปะการังในเอเชียจะเพิ่มมากขึ้น
การบุกเบิกใช้ทรัพยากรธรรมชาติผนวกกับการขยายตัวของเขตเมือง อุตสาหกรรม และการพัฒนาทางเศรษฐกิจในทุกประเทศของเอเชีย จะทำให้เกิดปัญหามลพิษทางน้ำ การเสื่อมโทรมของที่ดิน และปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ตามมา จนเป็นผลทำให้คุณภาพชีวิตของคนในทวีปนี้ต่ำลงอย่างแน่นอน


