สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
กรณีปราสาทพระวิหาร
ข้อมูลที่ประชาชนไทยควรทราบ เกี่ยวกับกรณีปราสาทพระวิหาร และการเจรจาเขตแดนไทย -
กัมพูชา
50 ประเด็น ถาม-ตอบ กรณีปราสาทพระวิหาร
สรุปข้อมูลสถานะของคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505
ลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร
กระทรวงการต่างประเทศ
สาระสำคัญในการประชุม JBC
สาระสำคัญในการประชุม JBC ทั้ง 3 ครั้ง มีความคืบหน้า เพิ่มเติมในอีกหลายประเด็น ได้แก่
-
ที่ประชุมยืนยันว่าควรดำเนินการตามขั้นตอนที่
2 ของ แผนแม่บทและข้อกำหนดอำนาจหน้าที่ของการสำรวจฯ (TOR 2546 ซึ่งมี 5
ขั้นตอน) โดยเร็วที่สุด คือ ให้ผลิตแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศตลอดแนว เขตแดน
เพื่อช่วยในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน
เห็นชอบว่า ชุดสำรวจร่วมอาจเริ่มการสำรวจพื้นที่ตอนที่ 5 (หลักเขตแดนที่ 1 - 23)
ที่ประชุมหารือเรื่องการจัดทำคำแนะนำสำหรับการสำรวจ ในพื้นที่ตอนที่ 6 (หลักเขตแดนที่ 1 - เขาสัตตะโสม) ซึ่งรวมบริเวณปราสาท พระวิหารด้วย และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปหารือกันในระดับเทคนิคต่อไป
ระหว่างรอการจัดทำข้อตกลงชั่วคราวเกี่ยวกับสถานการณ์ ชายแดนไทย - กัมพูชา (Provisional Arrangement) บริเวณปราสาท พระวิหารให้แล้วเสร็จ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้เริ่มสำรวจและจัดทำเขตแดน ในพื้นที่ตอนที่ 6 ทันทีที่ได้ข้อยุติเกี่ยวกับคำแนะนำสำหรับการสำรวจ ในพื้นที่ตอนที่ 6
เห็นชอบให้มีการประชุม JBC สมัยวิสามัญ เพื่อหารือ ประเด็นกฎหมายเกี่ยวกับพื้นที่สำรวจตอนที่ 6 เมื่อมีการเริ่มสำรวจและ จัดทำหลักเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าว
รับทราบว่าเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคของทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้อง กันเกี่ยวกับร่างรายงานร่วมภาษาอังกฤษ ว่าด้วยการสำรวจสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดนสำหรับ 29 หลัก (หลักเขตแดนที่ 23 - 51) และตกลงให้ เจ้าหน้าที่เทคนิคของทั้งสองฝ่ายร่วมกันตรวจสอบร่างรายงานการสำรวจฯ ทั้งสามภาษาก่อนส่งให้คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม (Joint Technical Sub - Commission - JTSC) และ JBC พิจารณาและให้ความเห็นชอบ ต่อไปตามลำดับ (ดูองค์ประกอบของคณะ JTSC ตลอดจนขั้นตอน การปฏิบัติงานตามสายบังคับบัญชาในหัวข้อ TOR 2546)
ฝ่ายไทยจะส่งร่างรายงานร่วมภาษาอังกฤษ ว่าด้วย การสำรวจสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดน สำหรับ 19 หลักที่เหลือ (หลักเขตแดนที่ 52 - 70) ให้ฝ่ายกัมพูชาพิจารณาต่อไป
หมายเหตุ : สำหรับการประชุม JBC เมื่อวันที่ 7 - 8 เมษายน 2554 ที่เมือง
โบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ
การเตรียมการดำเนินงานในประเด็นต่าง ๆ ในระหว่างที่รอให้บันทึก
การประชุมในการประชุม JBC 3 ครั้งที่ผ่านมา ได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาไทย อาทิ
การเตรียมการดำเนินการสำรวจในบริเวณพื้นที่ตอนที่ 5 การคัดเลือก
บริษัทจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ และยังได้หารือเรื่องการดำเนิน
การสำรวจรายละเอียดในบริเวณที่จะเปิดจุดผ่านแดนถาวร
ลำดับเหตุการณ์การเสนอบันทึกการประชุมฯ 3 ฉบับ ให้รัฐสภา
พิจารณาให้ความเห็นชอบ
1. คณะรัฐมนตรีได้เสนอบันทึกการประชุมฯ 3 ฉบับ ให้รัฐสภา
เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 วรรคสอง เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ต่อมา
ในคราวประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 (สมัย สามัญนิติบัญญัติ) เมื่อวันที่ 10
พฤศจิกายน 2552 ที่ประชุมฯ มีมติ เห็นชอบให้ถอนบันทึกการประชุม JBC ไทย - กัมพูชา
ทั้ง 3 ฉบับ ออกจาก วาระการพิจารณาไปก่อน
2. เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553
คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ การเสนอบันทึกการประชุม JBC ทั้ง 3 ฉบับ อีกครั้ง
และประธานรัฐสภาได้ บรรจุบันทึกการประชุมฯ ในระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญทั่วไป) วันที่ 7 พฤษภาคม 2553
แต่รัฐสภายังไม่ได้พิจารณาจนปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไป บันทึกการประชุมฯ ดังกล่าว
จึงเป็นอันตกไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2551 ข้อ 57
ซึ่งนำมาใช้บังคับโดยอนุโลม ในระหว่างที่ยังไม่มีข้อบังคับ การประชุมรัฐสภา
3. เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (ประกอบด้วยกรรมาธิการจำนวน 30 คน)
เพื่อพิจารณาศึกษาบันทึกการประชุมฯ ซึ่งมีการประชุมของคณะกรรมาธิการฯ จำนวน 13
ครั้ง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมชี้แจงในการประชุม ทุกครั้ง ทั้งนี้
คณะกรรมาธิการฯ ได้มีรายงานผลการพิจารณาศึกษาเสนอต่อ รัฐสภาเมื่อวันที่ 28
กุมภาพันธ์ 2554 โดยมีข้อแนะนำที่สำคัญ ได้แก่
-
ให้ส่งข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ
เกี่ยวกับการที่ ประเทศไทยไม่ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 ระวางดงรัก
ไปยัง นายกรัฐมนตรี เพื่อให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป
ฝ่ายไทยควรเจรจาให้ฝ่ายกัมพูชานำชุมชน ประชาชน ทหาร ออกนอกพื้นที่พิพาท โดยอาจใช้รูปแบบการเจรจาที่แตกต่างจากเดิม อาทิ การพบปะอย่างไม่เป็นทางการ
ให้คณะรัฐมนตรีกำหนดแนวทางเยียวยาบรรเทา ความทุกข์ของประชาชนที่ไม่สามารถเข้าไปทำกินในพื้นที่ที่ตนเองมี เอกสารสิทธิได้
ให้โต้แย้ง/ท้วงติงในกรณีคำกล่าวปราศรัยของฝ่าย กัมพูชาในการประชุม JBC ที่กล่าวหาว่าฝ่ายไทยรุกล้ำดินแดนหรือทำผิด MOU 2543 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
4. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2553 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 80 คน
ได้ยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภา เพื่อเสนอความเห็นไปยัง
ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาบันทึกการประชุม JBC ทั้ง 3 ฉบับว่า เป็นหนังสือ
สัญญาตามมาตรา 190 วรรคสองหรือไม่ ซึ่งประธานรัฐสภาได้ส่งคำร้อง
ดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554
5. ในการประชุมร่วมของสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 และ 29 มีนาคม 2554 นายชัย ชิดชอบ
ประธานรัฐสภา
ได้เลื่อนการพิจารณารับทราบผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการศึกษาบันทึก การประชุม
JBC รวม 3 ฉบับ ออกไปอีก เนื่องจากสมาชิกไม่ครบองค์ประชุม
6.
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งที่ 10/2554 ในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554
ว่า พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ผู้ร้องจะเป็น
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวน
สมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา แต่การที่คณะรัฐมนตรีได้นำ
บันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา รวม 3 ฉบับ
เสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยมีข้อเท็จจริงปรากฏตาม
คำร้องและเอกสารที่ประธานรัฐสภาส่งต่อศาลว่า คณะผู้แทนทั้งสองฝ่าย
ยังจะต้องเจรจากันต่อไป กรณียังไม่ถึงขั้นตอนที่จะต้องเสนอเรื่องให้
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด เนื่องจากยังมีขั้นตอนอื่น ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่
ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องพิจารณาดำเนินการเสียก่อน
ในชั้นนี้จึงยังไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคหก (6)
ประกอบมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ที่จะเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยชี้ขาด
7. คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2554 รับทราบ
คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 10/2554 และให้ถอนบันทึกการประชุมฯ ทั้ง 3 ฉบับ
ออกจากการพิจารณาให้ความเห็นชอบของรัฐสภา และให้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเจรจาต่อไป และในคราวประชุมร่วมกัน
ของรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2554 ที่ประชุมฯ ได้มีมติให้ถอนบันทึก การประชุมฯ
ทั้ง 3 ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภา
8. เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2554 กระทรวงการต่างประเทศได้มี
หนังสือแจ้งให้กัมพูชาทราบถึงการมีผลใช้บังคับของบันทึกการประชุมฯ ทั้ง 3 ฉบับ
เนื่องจากการดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายภายในของไทย เสร็จสิ้นแล้ว
ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้มีหนังสือตอบกลับเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2554
รับทราบการแจ้งของฝ่ายไทย และแจ้งว่า สำหรับกัมพูชา บันทึก การประชุมฯ ทั้ง 3
ฉบับดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่สิ้นสุดการประชุม เมื่อวันที่ 7 - 8 เมษายน 2552
-
ข้อมูลปราสาทพระวิหาร
ประวัติการกำหนดเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีน ฝรั่งเศส
คำพิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรณีปราสาทพระวิหาร
คำตัดสินวันที่ 15 มิถุนายน 2505 (ค.ศ. 1962)
ความเห็นแย้งที่ว่า ปราสาทพระวิหารเป็นของไทย
การปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
การดำเนินการของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหา เขตแดนไทย - กัมพูชา
การดำเนินการตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550
การเสนอบันทึกการประชุม JBC 3 ฉบับ เพื่อขอรับ ความเห็นชอบของรัฐสภา
สาระสำคัญในการประชุม JBC
การเจรจาร่างข้อตกลงชั่วคราว (draft Provisional Arrangement - PA) เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร
บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย - กัมพูชา ว่าด้วย การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543 (MOU 2543)
ความเป็นมาของ MOU 2543
การละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาและการประท้วงของไทย
แผนแม่บทและข้อกำหนดอำนาจหน้าที่ของการสำรวจ และจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2546 (TOR 2546)
การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา
การแก้ไขปัญหาไทย - กัมพูชา ในกรอบคณะมนตรี ความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ UNSC และกรอบอาเซียน
บทบาทของประธานอาเซียนในการสนับสนุนการแก้ไข ปัญหาระหว่างไทย - กัมพูชา ผ่านกลไกทวิภาคีของทั้งสอง ประเทศ
การแก้ไขปัญหาไทย - กัมพูชา ในกรอบศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
เขตอำนาจ (jurisdiction) ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
หลังจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินคดีปราสาท พระวิหาร ปี 2505 ทำไมกัมพูชายังสามารถนำข้อพิพากษา กลับเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้อีก
กัมพูชาขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีคำสั่ง ออกมาตรการชั่วคราว
เงื่อนไขในการมีคำสั่งออกมาตรการชั่วคราว
ข้อมูลที่น่าสนใจ ผู้พิพากษาเฉพาะกิจ (Judge ad hoc)
ตัวแทน (Agent)
ปราสาทพระวิหารกับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
กระบวนการการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 32 (WHC 32) ณ เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ปี 2551
การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 33 (WHC 33) ณ เมืองเซบีญา ประเทศสเปน ปี 2552
การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 34 (WHC 34) ณ กรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล ปี 2553
การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 35 (WHC 35) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปี 2554
การดำเนินการของไทยและการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ท่าทีของไทยต่อความสัมพันธ์ไทย - กัมพูชา
การดำเนินความสัมพันธ์กับกัมพูชาของรัฐบาลปัจจุบัน