ปรัชญา อภิปรัชญา ญาณวิทยา จิตวิทยา ตรรกศาสตร์ >>
ความเบื้องต้น
แหล่งอารยธรรมที่สำคัญของโลก
ความเป็นมาของชนชาติไทย
กลุ่มที่เชื่อว่าคนไทยมีถิ่นกำเนิดในถิ่นอื่นนอกจากดินแดนประเทศไทย
กลุ่มที่เชื่อว่า คนไทยมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ดินแดนประเทศไทยนี้เอง
วิวัฒนาการของสังคมไทยสมัยต่าง ๆ
ความเชื่อดั้งเดิมของชนชาติไทย
ความเชื่อก่อนการนับถือพระพุทธศาสนา
ความเชื่อเมื่อนับถือพระพุทธศาสนา
ความเชื่อของคนไทยสมัยใหม่
ชนชาติไทยกับปรัชญา
ภูมิปัญญาไทย หรือ แนวคิดไทย
ปรัชญาไทย
วิธีคิดของคน
วิธีคิดของคนไทย
ระบบปรัชญาไทย 3 สาขา
ความเชื่อของคนไทยสมัยใหม่
ปัจจุบันประเทศไทยเปิดประเทศติดต่อกับนานาอารยประเทศในวงกว้าง ทำให้แนวคิด
ทรรศนคติ และค่านิยมที่เคยมีมาแต่เดิมเปลี่ยนแปลงไปมาก คนสมัยใหม่ปฏิเสธศาสนา
หาว่าเป็นสิ่งที่เชย คร่ำครึไม่ทันสมัย ขัดขวางความเจริญของประเทศ
คุณค่าความงามด้านจิตใจเป็นสิ่งที่ถูกละเลย
กลายมานับถือคุณค่าและความงามทางวัตถุเสพบริโภค มองความดีที่เปลือกนอก
ผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดี มีอำนาจฐานะทางสังคม ใช้ชีวิตแบบตะวันตก
ตามทันกระแสโลกาภิวัตน์ คือ คนดี มิได้นับถือความมีคุณธรรมคือความดี ดุจแต่ก่อน
ความคิดนี้เป็นอันตราย ส. ศิวรักษ์กล่าวว่า
คนรุ่นใหม่ยังไม่ควรรีบด่วนปฏิเสธอารยธรรมดั้งเดิมของตน
เมื่อไม่เข้าใจอารยธรรมดั้งเดิม ก็เริ่มดูถูกอารยธรรมของตน อันตรายอยู่ตรงนี้
ยิ่งมารับอารยธรรมใหม่ตามสมัยนิยมและยังไม่เข้าใจอารยธรรมใหม่นั้นอีก
นี้แหละคือความหายนะ
ตัวเร่งให้ชาวไทยสมัยใหม่มีค่านิยม และความเชื่อเปลี่ยนแปลงไปจากวิถีเดิม
ก็คือ การยอมรับวัฒนธรรมตะวันตก ด้วยการติดต่อกับ กลุ่มประเทศทางตะวันตก โดย
ชนชั้นนำในสังคมเป็นผู้เริ่มรับเอาวัฒนธรรมใหม่มาปฏิบัติ อย่างน้อย ก็เป็นเวลา
เกือบร้อยปี แบ่งเป็นระยะได้ 4 ระยะ คือ
ระยะแรก ในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นช่วงที่วัฒนธรรมตะวันตกแผ่เข้ามา
นำเทคโนโลยีและของแปลกใหม่เข้ามา ชาวไทยสนใจ แต่ก็ยังสงวนท่าที่ เรียกว่า
ระยะตั้งหลัก ระยะที่ 2 เรียกว่า ระยะการเปลี่ยนแปลงขอบนอก ในสมัยรัชการที่ 4
เห็นว่า วิชาการและเทคโนโลยีตะวันตกหลายอย่าง เจริญกว่า ดีกว่าของไทย
ก็ยังคงรักษาสาระวัฒนธรรมส่วนใหญ่เอาไว้ แต่เห็นว่า
อย่างไรก็ต้านทานกระแสโลกตะวันตกมิได้
จำเป็นต้องปรับปรุงจารีตบางอย่างให้เป็นเชิงวิทยาศาสตร์ ระยะต่อมา เรียกว่า
ระยะการเปลี่ยนแปลงสถาบันหลัก เห็นได้ชัดในสมัยรัชกาลที่ 5
มีการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหาราชการแผ่นดิน
จากจตุสดมภ์เป็นระบบกระทรวงทบวงกรมแบบตะวันตก และสุดท้าย ระยะการหาความสมดุล
ในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นการปรับปรุงเพื่อรักษาสมดุลของเอกลักษณ์ไทย
ผสมกับเทคโนโลยีตะวันตก สร้างความคิดชาตินิยมขึ้นมา นับจากนั้นมา สังคมไทย
ก็ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงค่านิยมไป นับแต่ วัฒนธรรมการแต่งกาย การเคารพผู้ใหญ่
ศิลปกรรม ประเพณีนิยม เป็นต้น โดยอ้างว่า เพื่อให้พัฒนาหรือให้ทันสมัย
วิธีคิดแบบตะวันตกได้ส่งผลกระทบต่อ วิถีการดำเนินชีวิต ความคิด ความเชื่อ
ของชาวไทยเป็นอย่างมากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายประการ คือ
การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา และด้านสื่อและเทคโนโลยี
ยิ่งความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการคอมพิวเตอร์มีบทบาทมากขึ้นเพียงใด
ก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ขยายออกไปในวงกว้างยิ่งขึ้น
ความจริง ทุกอย่างย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งแวดล้อม หรือ ตามกฎอนิจจัง
การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีควรให้เกิดให้มี แต่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างมีสติ
คนสมัยใหม่ แม้ว่าจะรักวิทยาการสมัยใหม่ ชอบความเป็นประชาธิปไตย
เป็นวัตถุนิยมมากกว่าจิตนิยม
ก็ไม่ควรลืมด้านพัฒนาคุณภาพจิตใจให้เจริญประสานกลมกลืนกับความเจริญทางวัตถุ
การปรับให้เกิดสมดุลระหว่างกายกับจิต ควรหันมาศึกษาคำสอนทางพระพุทธศาสนา
ที่สอนให้รู้จักความพอดี ใช้สอยแต่สิ่งที่จำเป็นในชีวิต
เข้าใจโลกและชีวิตอย่างมีเหตุผล
หลักปรัชญาชาวตะวันออกมุ่งสอนให้คนเรียนรู้เพื่อจะอยู่และสัมพันธ์สอดคล้องกับธรรมชาติ
มิใช่ให้เอาชนะธรรมชาติ อย่างที่ชาวตะวันตกกำลังพยายามเอาชนะอยู่
จนก่อปัญหาแก่สภาพแวดล้อม สูญเสียระบบนิเวศ
จนชาวโลกช่วยกันหันมาเรียกร้องฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยา
คืนสภาพเดิมแก่ธรรมชาติกันอย่างปัจจุบัน